อัจฉริยภาพของโจเซฟ พิลาทิส
ฮูเบอร์ตุส โจเซฟ พิลาทิส เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1883 ณ เมืองมึนเช่นกลัดบัค ประเทศเยอรมนี เขาเติบโตมาในครอบครัวที่หล่อหลอมความเชี่ยวชาญจากทั้งสองด้าน โดยมีบิดาเป็นนักกายกรรม และมารดาเป็นนักธรรมชาติบำบัด ในช่วงวัยเยาว์ โจเซฟหลงใหลและได้รับอิทธิพลจากการศึกษาการเคลื่อนไหวทั้งจากซีกโลกตะวันตกและตะวันออก รวมถึงศาสตร์แห่งโยคะ ความมุ่งมั่นนี้ส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาที่หลากหลาย ทั้งนักมวย นักกายกรรม นักสกี และนักดำน้ำ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้เองที่เป็นรากฐานสำคัญในการคิดค้นระบบการออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโลกในเวลาต่อมา
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โจเซฟได้นำทักษะด้านมวยปล้ำและการป้องกันตัวมาใช้สอนเพื่อนร่วมค่ายกักกัน พร้อมกับเริ่มต้นคิดค้นระบบการเคลื่อนไหวเชิงปฏิวัติขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อรักษาสุขภาพและฟื้นฟูร่างกายท่ามกลางสภาวะที่ยากลำบาก ในช่วงเวลานี้เองที่โจเซฟได้พบปะกับเหล่าทหารและผู้บาดเจ็บ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการประยุกต์ใช้อุปกรณ์ต่างๆ (เช่น สปริงจากเตียงผู้ป่วย) มาเป็นเครื่องมือช่วยออกกำลังกาย จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นอุปกรณ์ระดับโลกที่เราเห็นในปัจจุบัน
ระบบการเคลื่อนไหวของโจเซฟ พิลาทิส มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งจากกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญในการรักษาสมดุลและพยุงกระดูกสันหลังให้มั่นคง เป้าหมายสูงสุดของพิลาทิสไม่ใช่เพียงการออกกำลังกาย แต่คือการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างจิตใจและร่างกาย เพื่อให้ทุกท่วงท่าที่คุณเคลื่อนไหวมีความแม่นยำ ทรงพลัง และเปี่ยมไปด้วยความสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากเดินทางถึงนิวยอร์กในปี 1926 โจเซฟและคลาร่า ภรรยาคู่คิด ได้ร่วมกันเปิดยิมแห่งแรกขึ้นบนถนนเอทธ์อเวนิว (8th Avenue) ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับสตูดิโอเต้นรำชั้นนำหลายแห่ง ทำเลทองแห่งนี้ทำให้โจเซฟได้มีโอกาสร่วมงานกับเหล่านักเต้นระดับตำนานอย่าง จอร์จ บาลานชิน, มาร์ธา เกรแฮม และเจอโรม ร็อบบินส์ ซึ่งเหล่าศิลปินชื่อดังเหล่านี้เองที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพของพิลาทิสในการฟื้นฟู และยกระดับร่างกายให้ทรงพลังจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
หลังปี 1967 คลาร่า พิลาทิส ได้ส่งมอบสตูดิโอให้ศิษย์เอกอย่าง โรมานา ครีซาโนฟสกา เป็นผู้ดูแลและย้ายไปยังถนนสายที่ 56 โรมานาได้ทุ่มเทรักษาขนบธรรมเนียมแบบคลาสสิกไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งความซื่อตรงต่อศาสตร์ดั้งเดิมนี้เองที่ได้กลายมาเป็นหัวใจสำคัญและรากฐานในการก่อตั้ง Power Pilates จนถึงปัจจุบัน
